ถอดบทเรียนการใช้ DJI Dock เพื่อการเฝ้าระวังในประเทศมาเลเซีย
กรมตำรวจภูธรในประเทศมาเลเซียได้เดินหน้าผลักดันขีดความสามารถในการตรวจตราเชิงรุกบนพื้นที่ที่รับผิดชอบด้วยการผนวกการทำงานของ DJI Dock และโดรนสำหรับตรวจตราและกู้ภัย ตัวท็อปอย่าง DJI Matrice 30T เพื่อทำการวางโปรแกรมการบินตรวจตราพื้นที่อัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกรมตำรวจ ในการตรวจสอบติดตามกิจรรมที่น่าสงสัยหรือสุ่มเสี่ยงที่จะเข้าข่ายการก่ออาชญากรรม
ในบทความนี้ Aonic Thailand จะพาทุกท่านสำรวจวิธีการใช้ DJI Dock เพื่องานเฝ้าระวัง
ในอดีต….
แนวทางเชิงรุกเพื่อปรับปรุงการเฝ้าระวังความปลอดภัยของกรมตำรวจภูธรนั้นมุ่งเน้นไปที่การจัดตั้งทีมงานเพื่อใช้การสำรวจทางอากาศด้วยโดรนเพื่อตอบโจทย์จุดประสงค์ต่างๆ อาทิ การตรวจตราจากมุงมองบนอากาศในช่วงเหตุการณ์สำคัญ การตรวจเช็คความลื่นไหลของจราจรในช่วงเทศกาลหยุดยาว และการเฝ้าระวังทางอากาศเป็นประจำทุกวันในพื้นที่สุ่มเสี่ยง
ในสถานณการ์ณเหล่านี้ทีมนักบินโดรนเคลื่อนที่จะได้รับมอยหมายให้ ดูภาพรวมความปลอดภัยในที่สาธารณะจัดการควบคุมฝูงชน และกระจ่ายข่าวเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ต่อสถาณการณ์ที่เกิดการอย่างไรก็ตาม การทำงานนั้นยังคงจำเป็นที่จะต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวน2-3คนในการขับรถบรรทุกโดรน เตรียมการการปล่อยโดรน และขับโดรน ณ สถานที่ติดตั้งและปล่อยโดรน
ด้วยข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายให้ทันแก่สถานณ์การณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับวัย กรมตำรวจได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการใช้แนวทางที่มีประสิทธิภาพและรวมศูนย์มากขึ้น จึงตัดสินใจเลือก DJI Dock ให้เข้ามาแก้ปัญหาและอำนวยความสะดวกของทีมงาน ด้วยความพยายามที่จะปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานให้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองของท้องถิ่นได้อยากมีประสิทธิภาพ
ลดเวลาการเตรียมตัว
แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ทีมงานจะต้องเดินทางไปยังจุดต่างๆและฝ่าการจราจรที่ไม่อาจคาดเดา การใช้งาน DJI Dock ทำให้ปัญหาด้านลอจิสติกส์นั้นไม่เกิดขึ้นอีก สามารถสั่งการและควบคุมสถาน์การ์ณจากที่กรม พร้อมออกแบบการรับมือที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างราบรื่อน ด้วยความสามารถในการตั้งการบินอัตโนมัติ ทำให้ การเที่ยวบินของโดรน ครอบคลุมพื้นที่สำคัญอย่างแม่นยำ
Mission Planning
การวางแผนภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการดึงขีดจำกัดการทำงานของโดรนออกมา เพื่อตอบสนองจุดประสงค์การใช้งานโดรนของกรมตำรวจเช่นการเฝ้าระวังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง หรือการรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้ถูกบันทึกเข้ากับแผนภารกิจบน Flighthub 2 ได้อย่างราบรื่น
Flighthub2 เป็นตัวช่วยในการนำปัจจัยต่างๆเช่นเส้นทางการบิน3มิติcloudmappingและข้อมูลแบบเรียลไทม์ของบริเวณจุดเจาะจง จึงสามารถจัดทำแผนภารกิจอย่างรอบคอบเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
Drone Data Collection
ด้วยDJI Dock การรวบรวมข้อมูลของโดรนและขั้นตอนการLive streaming จะรวดเร็วมากขึ้นพร้อมฟีเจอร์การตั้งระบบบินอัตโนมัติซึ่งจะตั้งโปรแกรมให้โดรนออกปฏิบัติการเองจาก DJI Dock ในวันเวลาที่กำหนด ซึ่งสามารถตั้งจำนวนครั้งต่อสัปดาห์ได้
ด้วยกล้องและเซ็นเซอร์ความละเอียดสูง DJI Matrice 30Tจัดเก็บภาพและวิดีโอได้อย่างเรียลไทม์ ความละเอียดของกล้องนั้นซูมได้ถึง 48MP พร้อมความสามารถในการซูมแบบไฮบริด 200 เท่า ช่วยยกระดับการทำงานของโดรน โดยให้ภาพที่คมชัดยิ่งขึ้นจากระยะไกล การรวบรวมข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์นี้ไม่เพียงแต่แม่นยำมากขึ้น แต่ยังมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากโดรนสามารถบินเก็บข้อมูลครอบคลุมพื้นที่ที่กำหนดได้โดยไม่จำเป็นต้องบังคับด้วยนักบิน
ตัวอย่างสถานการณ์ที่ DJI Dock เข้ามาช่วยปฏิบัติงาน
1) การตั้งเวลาบินรายวัน
เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเฝ้าระวังครอบคลุมพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างต่อเนื่อง ตำรวจท้องถิ่นได้ใช้โดรนลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงเป็นประจำ การลาดตระเวนดังกล่าวมีการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ มุ่งเป้าไปที่ช่วงเวลาเฉพาะที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูง เช่น ช่วงเย็นและช่วงเย็น นอกจากนี้ ยังมีการลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่ที่มีแนวโน้มก่อเหตุเป็นประจำตลอดทั้งวัน เช่น ในบริเวณที่มีอาคารพาณิชย์ และนิคมอุตสาหกรรม วิธีการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของสาธารณะชนเท่านั้น แต่ยังแบ่งเบาภาระของบุคลการในการตรวจตราจากคำสั่งการบินอัตโนมัติวันละสองช่วงเวลา
2) การตอบสนองต่อสภาวะฉุกเฉิน
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดรนที่ถูกตั้งค่าให้บินอัตโนมัติในพื้นที่จะช่วย Live stream ภาพจากบนฟ้า และช่วยบอกสภานการ์ร์เบื้องต้น เพื่อช่วยให้การตัดสินใจและวางแผนการระดมพลหน่วยภาคพื้นดินเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งหากโดรนติดตั้งไฟให้สัญญาณและลำโพงเคลื่อนที่ด้วย จะทำให้การสื่อสารระหว่างกับเจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับแผนการการอพยพ ณ จุดเกิดเหตุ
3) การระบุตำแหน่ง(Pinpoint) สำหรับการระดมพลภาคพื้นดิน
การบินโดรนอัตโนมัติร่วมกับ DJI Dock ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองภัยฉุกเฉินได้อย่างมาก เมื่อมีการรายงานเหตุการณ์ โดรนจะถูกปล่อยเพื่อเข้าถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วและรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์ จากนั้นจะส่งการระบุตำแหน่งของเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ศูนย์บัญชาการอัปโหลดข้อมูลและแบ่งปันกับหน่วยภาคพื้นดินที่เกี่ยวข้องพร้อมย่นเวลาของการส่งข้อมูลข่าวสารให้หน่วยง่านอื่นๆนั้นราบรื่นทำให้การประสานงานเป้นไปได้อย่างคล่องตัว
Feedback
การประยุกร์ใช้ DJI Dock ของกรมตำรวจท้องถิ่นได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี จากหน่วยงานดับเพลิงและเทศบาลในพื้นที่ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้:
1)การใช้ AI เพื่อปรับปรุงการตรวจจับความผิดปกติแบบเดิมๆและเพิ่มประสิทธิภาพการลาดตระเวน:
สถานีตำรวจในท้องที่ตระหนักถึงศักยภาพในการเพิ่มการตรวจจับความผิดปกติด้วย AI ซึ่งสามารถระบุรูปแบบและพฤติกรรมที่ผิดปกติที่อาจถูกมองข้ามได้จากผู้ปฏิบัติการภาคพื้นดิน นอกจากนี้ ยังสามารถนำข้อมูลการลาดตระเวณรายวันย้อนหลังมาประมวลผลเพื่อออกแบบเส้นทางการบินที่ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงอันตรายได้มากกว่าเดิม เพิ่มกำลังคนเพื่อเพิ่มกำลังลาดตระเวน
2) การเพิ่มประสิทธิภาพของการบินโดรนพร้อมลดจำนวนผู้ปฏิบัติงาน
ลดปริมาณผู้ปฏิบัติงานออกในขณะที่ปัญหาด้านการขนส่งและการเคลื่อนย้ายได้ถูกขจัดออก ด้วยการใช้ DJI Dock พร้อมการจัดทำรายงานที่มีข้อมูลครบท้วนจากการเฝ้าระวังรายวัน
3)การรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในช่วงวันหรือกิจกรรมที่สำคัญของภาครัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเลือกตั้ง การประยุกร์ใช้ DJI Dock เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์อ่อนไหวที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบภาพมุมสูงและข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็วในช่วงเหตุการณ์สําคัญดังกล่าว พร้อมการเตรียมพร้อมทีมภาคสนามในพื้นที่ๆเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
DJI Dock
ฐานสั่งการและบินโดรนอัตโนมัติเพื่องาน กู้ภัย เฝ้าระวัง และInspection สั่งการผ่าน DJI FlightHub 2
DJI Matrice 30 Thermal
โดรนขนาดกลาง เหมาะแก่งานช่วยเหลือและกู้ภัย สร้างมาให้ทนทานต่อการใช้งานในสภาพอากาศที่เลวร้าย กล้องตรวจจับความร้อนซูมได้ถึง 200 เท่า มาพร้อม RTK Module ในตัว กับฟีเจอร์ Active Track ทำให้สามารถติดตามสิ่งของที่เคลื่อนไหวได้อัตโนมัติ